วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ประโยชน์และโทษของอินเตอร์เน็ต

ประโยชน์และโทษของอินเตอร์เน็ต

1.ประโยชน์ของอินเตอร์เน็ต (ให้ตอบมาอย่างน้อย 5 ข้อ)
ตอบ
  • เป็นแหล่งค้นคว้าหาข้อมูลทางวิชาการ ข้อมูลด้านการบันเทิง ด้านการแพทย์ และอื่นๆที่เราสนใจ เป็นต้น
  • ทำหน้าที่เสมือนเป็นห้องสมุดขนาดใหญ่ หรือคลังหนังสือมหาศาล
  • นักเรียน และนักศึกษาสามารถใช้อินเทอร์เน็ตติดต่อกับโรงเรียน และมหาวิทยาลัยอื่นๆ เพื่อค้นหาข้อมูลที่กำลังศึกษาอยู่ได้ ทั้งที่ข้อมูลที่เป็นข้อความ เสียง และภาพเคลื่อนไหวต่างๆ
  • ทำการเรียนการสอนผ่านระบบอินเตอร์เน็ตได้
  • เป็นแหล่งค้นหาข้อมูลเพื่อช่วยในการตัดสินใจทางธุรกิจ
2. ให้นักเรียนหาประเด็นเกี่ยวโทษของอินเตอร์เน็ตต่อไปนี้
      2.1โรคติดอินเตอร์เน็ต
      ตอบ โรคติดอินเทอเน็ต (Webaholic)
      โรคติดอินเทอร์เน็ต เป็นอาการทางจิตประเภทหนึ่ง ซึ่งนักจิตวิทยาชื่อ Kimberly S Youngได้ศึกษา       และวิเคราะห์ไว้ว่าบุคคลใดที่มีอาการดังต่อไปนี้ อย่างน้อย 4 ประการ เป็นเวลาไม่น้อยกว่า1ปีแสดง       ว่าเป็น
  
      2.2เรื่องอณาจารผิดศีลธรรม
      ตอบ โทษของอินเทอร์เน็ต เรื่องอณาจารผิดศีลธรรม(Pornography/Indecent Content)
      เรื่องของข้อมูลต่างๆที่มีเนื้อหาไปในทางขัดต่อศีลธรรมลามกอนาจารหรือรวมถึงภาพโป๊เปลือย             ต่างๆนั้นเป็นเรื่องที่มีมานานพอสมควรแล้วบนโลกอินเทอเน็ตแต่ไม่โจ่งแจ้งเนื่องจากสมัย                    ก่อนเป็นยุคที่ WWW ยังไม่พัฒนา มากนักทำให้ไม่มีภาพออกมาแต่ในปัจจุบันภายเหล่านี้เป็นที่            โจ่งแจ้งบนอินเทอเน็ตและสิ่งเหล่านี้สามารถเข้าสู่เด็กและเยาวชนได้ง่ายโดยผู้ปกครองไม่                    สามารถที่จะให้ความดูแลได้เต็มที่เพราะว่าอินเทอเน็ตนั้นเป็นโลกที่ไร้พรมแดนและเปิดกว้างทำให้        สือ่เหล่านี้สามรถเผยแพร่ไปได้รวดเร็วจนเราไม่สามารถจับกุมหรือเอาผิดผู้ที่ทำสิ่งเหล่านี้ขึ้นมาได้ 
  
     2.3   ไวรัส ม้าโทรจัน หนอนอินเตอร์เน็ต และระเบิดเวลา 
   ตอบ
     ไวรัส : ป็นโปรแกรมอิสระ ซึ่งจะสืบพันธุ์โดยการจำลองตัวเองให้มากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อที่จะทำลาย             ข้อมูลหรืออาจทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานช้าลงโดยการแอบใช้สอยหน่วยความจำหรือ                    พื้นที่ว่างบนดิสก์โดยพลการ 
      หนอนอินเทอร์เน็ต : ถูกสร้างขึ้นโดย Robert Morris, Jr.จนดังกระฉ่อนไปทั่วโลกมันคือ                     โปรแกรมที่จะสืบพันธุ์โดยการจำลองตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆจากระบบหนึ่งครอบ                                       ครองทรัพยากรและทำให้ระบบช้าลง
      ระเบิดเวลา : คือรหัสซึ่งจะทำหน้าที่เป็นตัวกระตุ้นรูปแบบเฉพาะของการโจมตีนั้นๆทำงานเมื่อสภาพ        การโจมตีนั้นๆหมายถึงยกตัวอย่างเช่นระเบิดเวลาจะทำลายไฟล์ทั้งหมดในวันที่ 31                              กรกฎาคม 2542
       ม้าโทรจัน : ม้าโทรจันเป็นตำนานนักรบที่ซ่อนตัวอยู่ในม้าไม้ แล้วแอบเข้าไปในเมืองจนกระทั่งยึด         เมืองได้สำเร็จ โปรแกรมนี้ก็ทำงานคล้ายๆ กัน คือโปรแกรมนี้จะทำหน้าที่ไม่พึงประสงค์ มันจะ               ซ่อนตัวอยู่ในโปรแกรม ที่ไม่ได้รับอนุญาต มันมักจะทำในสิ่งที่เราไม่ต้องการ และสิ่งที่มัน                     ทำนั้นไม่มีความจำเป็นต่อเราด้วย เช่น การแอบส่งรหัสผ่านต่างๆ ภายในเครื่องของเราไป                     ให้ผู้เขียนโปรแกรม

 2.4และโทษของอินเตอร์อื่นๆ มาอย่างน้อยอีก 5 ข้อ
ตอบ 
1.อินเทอร์เน็ตเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่ที่มีผู้คนมากมายเข้าไปใช้บริการ เป็นเวทีที่เปิดกว้างและให้อิสระกับทุกคนได้เข้ามาเขียนข้อมูล หรือติดประกาศต่างๆ โดยปราศจากการกลั่นกรองที่ดี ทำให้ข้อมูลที่ได้รับไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นข้อมูลที่เป็นความจริงหรือไม่

2.เกิดปัญหาของการละเมิดลิขสิทธิ์ เช่น การดาวน์โหลดเพลง หรือรูปภาพ มารวบรวมขาย หรือที่เป็นปัญหาอย่างยิ่ง คื่อการตัดต่อภายบุคคลสฎคัญที่มีชื่อเสียงให้กลายเป็นภาพที่ส่อในทางอนาจารมาแผยแพร่ ทำให้บุคคลเหล่านั้นเสียหาย
3.ก่อให้เกิดปัญหาด้านอาชญากรรม เพราะการเล่นอินเทอร์เน็ต เช่น การล่อลวงหญิงไปในทางไม่ดี โดยรู้จักกันผ่านทางอินเทอร์เน็ต การก่อคดีข่มขืน เนื่องเว็บไซต์โป๊
4.ก่อให้เกิดปัญหาการหมกหมุ่นของเยาวชนที่เข้าไปในเว็บไซที่ไม่เป็นประโยชน์จนทำให้เกิด”โรคติดอินเทอร์เน็ต(wedaholic)”จะทำให้เกิดอัตรายต่อตนเองและสังคมได้
5.อินเตอร์เน็ตเป็นระบบอิสระ ไม่มีเจ้าของ ทำให้การควบคุมกระทำได้ยาก
3.ให้นักเรียนคิดโจทย์ เกี่ยวกับอินเตอร์เน็ตที่เรียนมาตั้งแต่ต้น มีตัวเลือก พร้อมเฉลย อย่างน้อย 10 ข้อ
ตอบ
1. การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่บ้านต้องเชื่อมผ่านอุปกรณ์ใด
ก.  โมเด็ม    ข. เราท์เตอร์   ค. ทีซีพี      ง. โปโตคอล
2. การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมีกี่รูปแบบ
ก.  2 รูปแบบ     ข. 3 รูปแบบ       ค. 4  รูปแบบ      ง. 5 รูปแบบ
3. การกำหนดรหัสผ่าน  Password  ควรใช้กี่ตัวอักษร
ก.  มากกว่า 3 ตัว         ข. มากกว่า 4 ตัว  ค. มากกว่า 5 ตัว  ง. มากกว่า 6 ตัว
4. ข้อใดไม่ใช่อุปกรณ์สำคัญในการเชื่อมต่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ตพื้นฐาน
ก.เครื่องคอมพิวเตอร์     ข.โมเด็ม       ค. โทรศัพท์      ง.เราท์เตอร์ 
5. อินเทอร์เน็ต  หมายถึง
ก. การเชื่อมต่อกันระหว่างเครือข่าย             ข. การเชื่อมต่อกันระหว่างบุคคลกับบุคคล
ค.การเชื่อมต่อกันระหว่างบุคคลกับองค์กร     ง. การเชื่อมต่อกันระหว่างองค์กรกับองค์กร
6.ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ คือข้อใด
ก. Chat       ข. E -mail          ค. Net                 ง.  Web
7. บริการใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นซึ่งตั้งอยู่ไกลออกไป สามารถใช้บริการใด
ก. Download      ข. FTP         ค. Telnet            ง. BBS
8. การบริการในลักษณะของกระดานข่าวหรือบูเลตินบอร์ด คือข้อใด
ก. UseNet           ข. Download     ค. IRC            ง.Chat
9. ข้อใดไม่ใช่การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
ก. เครื่องคอมพิวเตอร์  ข. โมเด็ม   ค. โทรศัพท์    ง. โทรทัศน์
10.การเชื่อมโยงเครือข่ายอินเทอร์เน็ตบุคคลสามารถเข้าถึงได้โดยใช้ผ่านคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์โดยใช้อุปกรณ์ต่อพ่วงคือ
ก.  ทีซีพี           ข.โมเด็ม    ค.. เราท์เตอร์      ง. โปโตคอล

 เฉลย
1.ค      2. ก     3. ง     4. ง     5. ก
6. ข     7. ค     8. ก     9. ง     10.ข


วันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

บริการค้นหาข้อมูล

แบบฝึกหัดที่ 4 

เรื่องอินเทอร์เน็ต(บริการค้นหาข้อมูล)


1.ให้อธิบายพร้อมยกตัวอย่างความแตกต่างระหว่างการสืบค้นแบบ  Web directory , Meta  search ,  Search  engine
ตอบ Web Directory คือ ระบบที่เก็บรวบรวมเว็บไซต์ไว้เป็นหมวดหมู่ ซึ่งสามารถแบ่งกลุ่มออกเป็น               หมวดหมู่ย่อย ๆ ได้ด้วย เว็บที่ถูกบันทึกในแต่ละกลุ่ม จะต้องมีหัวเรื่องหรือ
        เนื้อหาที่สัมพันธ์กัน
        Meta search คือ Search Engines ประเภทนี้ อาจจัดได้ว่าไม่ใช่ Search Engines ที่แท้จริง
        เนื่องจากไม่ได้ทำการสืบค้นข้อมูลเอง แต่จะส่งต่อคำถามจากผู้ใช้ (Query) ไปให้ 
        Search Engines ตัวอื่นผลการค้นที่ได้จึงแสดงที่มา (ชื่อของ Search Engines) ที่เป็นเจ้าของข้อมูล
       ไว้ต่อท้ายรายการที่ค้น       ได้แต่ละรายการ
        Search engine คือ เครื่องมือการค้นหาข้อมูลผ่านอินเตอร์เน็ต ที่ทุกคนสามารถเข้าไปค้นหาข้อมูล           ผ่านอินเตอร์เน็ตก็ได้ โดย กรอก ข้อมูลที่ต้องการค้นหา หรือ Keyword (คีย์เวิร์ด) เข้าไปที่ช่อง 
       Search Box แล้วกด Enter แค่นี้ข้อมูลที่เราค้นหาก็จะถูกแสดงออกมาอย่างมากมายก่ายกอง เพื่อให้          เราเลือกข้อมูลที่เราโดนใจที่สุดเอามาใช้ งาน โดยลักษณะการแสดงผลของ Search Engine 
       นั้นจะทำการแสดงผลแบบ เรียงอันดับ Search Resultsผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ของเรา


2.จงอธิบายความแตกต่างระหว่างการใช้คำสั่ง ดีใจจังค้นแล้วเจอแล้ว กับ การค้นหาแบบธรรมดา ใน Google
ตอบ การใช้คำสั่ง ดีใจจัง ค้นแล้วเจอเลยจะช่วยให้ใช้เวลาในการค้นหาหน้าเว็บน้อยลงเพราะเมื่อใช้คำสั่ง Google จะเข้าหน้าเว็บแรกที่เป็นผลลัพธ์ของข้อความค้นหาของคุณ ทันที ส่วนการใช้คำสั่งค้นหาแบบธรรมดานั้น Google จะแสดงผลลัพธ์เป็นหน้าเว็บให้คุณเลือกเข้าเอง 

3.ในการค้นหาขั้นสูง จะมีคำสั่ง AND กับ OR  เพื่อใช้เสริมในการค้นหา  จงอธิบายความแตก
ต่างพร้อมยกตัวอย่างการใช้งานพร้อมผลลัพธ์ทั้งสอง (แต่ละคนห้ามซ้ำกัน)
ตอบ  AND ใช้เชื่อมคำค้น เพื่อจำกัดขอบเขตการค้นหาให้แคบลง 
         เช่น ต้องการค้นหาคำว่า สัมตำที่เป็นอาหาร มีรูปแบบการค้นดังนี้ คือ ส้มตำ AND อาหาร หมายถึง                    ต้องการค้นหาคำว่า ส้มตำ และคำว่า อาหาร 

         OR ใช้เชื่อมคำค้น เพื่อขยายขอบเขตให้กว้างขึ้น
          เช่น สัมตำไทย OR ส้มตำปูปลาร้า หมายถึง ต้องการค้นหาคำว่า สัมตำไทย และ ส้มตำปูปลาร้า หรือ                 ค้นหาคำใด  คำหนึ่งก็ได้ 


4.Google Scholar มีวัตถุประสงค์ในการใช้งานอย่างไร
ตอบ มีไว้ค้นหา บทความ หรือ งานวิจัย โดยเฉพาะ

5.Google Guru  มีวัตถุประสงค์ในการใช้งานอย่างไร
ตอบ มีไว้ใช้ในการตั้งคำถามเพื่อให้คนที่มีความรู้มาตอบ และเพื่อเอาคำตอบไปใช้อย่างรวดเร็ว

6.iGoogle คืออะไรมีไว้เพื่อจุดประสงค์ใด
ตอบ  I Google เป็นฟังค์ชันที่ Google ทำออกมาเพื่อเอาใจผู้ใช้ I Google เราสามารถปรับแต่งหน้าต่าง I Google ของเรายังไงก็ได้ สามารถดูสภาพอากาศของจังหวัดต่างๆได้ สามารถจดบันทึกข้อความก็ได้ ดูข่าวสาร สาระน่ารู้ ก็ได้อีกเหมือนกัน สามารถ chat พูดคุยกับเพื่อนก็ได้ อีกทั้งสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบที่เราต้องการไม่ให้ซ้ำใครอีกด้วย

7.จงบอกสิทธิประโยชน์ของการสมัครเป็นสมาชิกของ Google  ว่ามีความแตกต่างกับผู้ไม่สมัคร    อย่างไร (ให้นักเรียนบอกที่มาด้วย)
ตอบ มื่อสมัครเป็นสมาชิก Google จะได้รับสิทธิประโยชน์ดังนี้
      – สถิติเกี่ยวกับ Visitor รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ที่เข้ามาชมเว็บไซต์
      – สถิติเกี่ยวกับ Traffic รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับช่องทางในการเข้าถึงเว็บไซต์
      – สถิติเกี่ยวกับ Content รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสถิติการเข้าชมเนื้อหาภายในหน้าเว็บไซต์
      – สถิติเกี่ยวกับ Goal วิเคราะห์ว่าผู้ใช้งานเข้าถึงเป้าหมายภายในเว็บไซต์ได้อย่างไร

            ที่มา: http://apinya-namvises.blogspot.com/2015_08_01_archive.html

วันพุธที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2559

เทคนิคการสืบค้นข้อมูล

กิจกรม
ให้นักเรียนศึกษาใบความรู้ที่3 ทำกิจกรรมตอบคำถามที่กำหนดให้

 1.ให้นักเรียนเขียนวิธีการสืบค้นโดย เว็บไซต์คูเคิ้ล มีเงื่อนไขการสืบค้นให้มีคำสำคัญ 3 คำ
ตอบ โครงงานเรื่องกล้วยไม้

2.ในกรณีที่นักเรียนต้องการสืบค้นโดยใช้เว็บไซต์คูเคิ้ล และต้องการสืบค้นเฉพาะข้อมูล 
ประเภทเอกสาร หรือไฟล์เอกสารเวิร์ด(word)นักเรียนจะต้องพิมพ์เงื่อนไขการสืบค้นอย่างไร
ตอบ  กล้วยไม้.doc

3.ในกรณีที่นักเรียนต้องการสืบค้นโดยใช้เว็ปไซต์คูเคิ้ล และต้องการสืบค้นเฉพาะข้อมูล
ประเภทงานนำเสนอหรือไล์เพาเวอร์พ้อยด์(powerpoint)นักเรียนจะต้องพิมพ์เงื่อนไขการ
สืบค้นอย่างไร
ตอบ กล้วยไม้.ppt

4.ในกรณีที่นักเรียนต้องการสืบค้นโดยใช้เว็ปไซต์คูเคิ้ล และต้องการสืบค้นเฉพาะข้อมูล
เอกสารประเภทพีดีเอฟ(pdf)ซึ่งเป็นเอกสารที่ไม่ต้องการให้มีการแก้ไข นักเรียนจะต้อง
พิมพ์เงื่อนไขการสืบค้นอย่างไร
ตอบ กล้วยไม้.pdf

5.ให้นักเรียนเขียนอธิบายขั้นตอนการบันทึกจัดเก็บหน้าเว็บเพจ
 ตอบ 1.เปิดหน้าเว็บเพจ                                   
          2.บนสุดของหน้าต่าง Firefox, คลิกที่เมนู แฟ้ม และเลิก บันทึกหน้าเป็น... หน้าต่างบันทึก   
            จะปรากฏขึ้น
          3.ใช้หน้าต่างบันทึกในการเลือกสถานที่บนคอมพิวเตอร์คุณที่จะบันทึกหน้าเว็บ
          4.ในเมนู "บันทึกเป็นแฟ้มประเภท" ให้เลือกว่าคุณจะทำอย่างไรกับหน้านี้
          5.คลิก บันทึก หน้าเว็บจะถูกคัดลอกและบันทึกไว้เป็นแฟ้มในสถานที่ที่คุณเลือก

วันพุธที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2559





ส่วนประกอบของ Facebook

1. เป็นโลโก้  และมีช่องสำหรับค้นหาใช้ค้นหาได้ทั้งหมดที่เกี่ยวกับ Facebook ไม่ว่าจะเป็นชื่อผู้เล่น  ชื่อเพจ  ใช้อีเมล์ในการค้ารวมถึงข้อมูลที่มีอยู่ในระบบฐานข้อมูล  ซึ่งมีข่าวว่ากำลังพัฒนาระบบให้ตอบสนองความต้องการในการค้นหาที่มากขึ้นด้วย
2.เป็นชือของเราและรูปโปรไฟลืขนาดเล็ก  หากเราคลิกก็จะมาอยู่ที่หน้าของเรา  และมีคำว่าหน้าแรก  ซึ่งหาดมีระบบข่าวหรือว่าฟีตมาใหม่ๆ
3. เป็นเมนูที่ใช้งานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการจัดการเพจ  กาตั้งค่า  ออกจากระบบเป็นต้น
4. ต่อจากนั้นจะเป็นรูปคนหากมีคนกำลังขอให้เราเป็นเพื่อน  แสดงข้อความที่ส่งถึงเรา  และแสดงการแจ้งเตื่อนต่างๆที่เกี่ยวกับเรา
5. จะแสดงชื่อของเราแล้วการเข้าจัดการโปรโฟล์ต่างๆ  พร้อมรูปของเราที่ได้ตั้งค่าไว้
6. แสดงข่าวต่างๆที่เกี่ยวข้องกับเรา  รวมถึงกิจกรรมที่เพื่อนได้เชิญชวนต่างๆ
7. แสดงหน้าเพจที่เราสามารถเข้าไปใช้งานได้  หรือว่าเข้าไปจัดการใช้งานได้
8. แสดงรายชื่อกลุ่มต่างๆที่เราได้เข้าร่วมอยู่  สามารถที่จะเข้าไปโพสต่างๆได้
9. รายชื่อแอฟต่างไที่เราได้ใช้งานอย่างเช่นเกม  หรือว่าอื่นๆ
10. ช่องสำหรับโพสข้อความต่าง  ทั้งการโพสรูปภาพและลิงค์อื่นๆ
11. แสดงหน้าข่าวหรือว่าฟีคต่างๆที่  เพื่อนหรือว่าทางเพจที่เราได้กดไลท์ไว้
12. แสดงโฆษณาที่ได้ใช้งานกับทาง Facebook ไว้  ต้องนี้หากคนที่จะจำหน่ายสินค้าแล้วโฆษณาจะแสดงตรงนี้นั้นเอง






ส่วนประกอบของโปรแกรม google

1     1. Title bar (แถบชื่อ) แสดงชื่อเว็บที่เรากำลังใช้อยู่
2     2. Menu Bar (แถบเมนู) ทำหน้าที่แสดงเมนูคำสั่งต่างๆ ซึ่งแบ่งกลุ่มของคำสั่ง โดยประกอบไปด้วย เมนูFile, เมนูEdit, เมนูViewและเมนูFavorites
3     3. Address Bar (แถบที่อยู่) ทำหน้าที่ในการเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ต่างๆ
4     4.แถบบุ๊กมาร์ก หน้าเว็บโปรดของคุณจะแสดงอยู่ที่ด้านบนของหน้าแท็บใหม่เป็นค่าเริ่มต้น
5     5. Apps ไอคอนสำหรับแอปที่คุณได้ติดตั้งจาก Chrome เว็บสโตร์สามารถเข้าถึงได้โดยการคลิกบุ๊กมาร์ก Apps ในแถบบุ๊กมาร์ก เมื่อคุณอยู่ในหน้า Chrome Apps เพียงคลิกที่ไอคอนเพื่อเปิดแอป
6     6.ช่องค้นหา เริ่มพิมพ์คำค้นหาของคุณลงในช่องค้นหา และคุณจะเห็นคำค้นหาของคุณปรากฏขึ้นในแถบอเนกประสงค์ คุณยังสามารถป้อน URL เพื่อนำทางไปยังหน้าเว็บได้อีกด้วย
7     7. เข้าชมบ่อยสุด ภาพขนาดย่อของเว็บไซต์ที่คุณเข้าชมเป็นประจำจะปรากฏอยู่ด้านล่างช่องค้นหา เพียงคลิกที่ภาพขนาดย่อที่ต้องการเพื่อไปที่ไซต์นั้น หากต้องการนำไซต์ที่เข้าชมบ่อยที่สุดออก ให้วางเมาส์เหนือภาพขนาดย่อ และคลิกไอคอน ที่มุมขวาบนของภาพขนาดย่อนั้น

วันพุธที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2559

คำศัพท์เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ต



WebPage หมายถึง .....
    ว็บเพจ (อังกฤษweb page, webpage) หรือแปลเป็นไทยว่า หน้าเว็บ คือเอกสารเว็บชนิดหนึ่งหมาะสำหรับเวิลด์ไวด์เว็บและเว็บเบราว์เซอร์ เว็บเบราว์เซอร์จะแสดงเว็บเพจบนจอคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์เคลื่อนที่ เว็บเพจก็คือสิ่งที่ปรากฏออกมา แต่ศัพท์นี้ก็ยังหมายถึงแฟ้มคอมพิวเตอร์ที่มักจะเขียนเป็นเอชทีเอ็มแอลหรือภาษามาร์กอัปที่เทียบเคียงได้ ซึ่งมีลักษณะเด่นอันเป็นหลักก็คือ การจัดเตรียมข้อความหลายมิติที่จะนำไปสู่ เว็บเพจอื่น ผ่านทางลิงก์ เว็บเบราว์เซอร์จะประสานงานกับทรัพยากรเว็บที่อยู่โดยรอบเว็บเพจที่เขียน อาทิสไตล์ชีต สคริปต์ และรูปภาพ เพื่อนำเสนอเว็บเพจนั้น
                                            ที่มา:https://th.wikipedia.org

Web site หมายถึง .....
   เว็บไซต์ (อังกฤษWebsite, Web site หรือ Site) หมายถึง หน้าเว็บเพจหลายหน้า ซึ่งเชื่อมโยงกันผ่านทางไฮเปอร์ลิงก์ ส่วนใหญ่จัดทำขึ้นเพื่อนำเสนอข้อมูลผ่านคอมพิวเตอร์ โดยถูกจัดเก็บไว้ในเวิลด์ไวด์เว็บ หน้าแรกของเว็บไซต์ที่เก็บไว้ที่ชื่อหลักจะเรียกว่า โฮมเพจเว็บไซต์โดยทั่วไปจะให้บริการต่อผู้ใช้ฟรี แต่ในขณะเดียวกันบางเว็บไซต์จำเป็นต้องมีการสมัครสมาชิกและเสียค่าบริการเพื่อที่จะดูข้อมูล ในเว็บไซต์นั้น ซึ่งได้แก่ข้อมูลทางวิชาการ ข้อมูลตลาดหลักทรัพย์ หรือข้อมูลสื่อต่างๆ ผู้ทำเว็บไซต์มีหลากหลายระดับ ตั้งแต่สร้างเว็บไซต์ส่วนตัว จนถึงระดับเว็บไซต์สำหรับธุรกิจหรือองค์กรต่างๆ การเรียกดูเว็บไซต์โดยทั่วไปนิยมเรียกดูผ่านซอฟต์แวร์ในลักษณะของ เว็บเบราว์เซอร์
                                                ที่มา:https://th.wikipedia.org

HomePage หมายถึง ...
    โฮมเพจ คือคำที่ใช้เรียกหน้าแรกของเว็บไซต์ โดยเป็นทางเข้าหลักของเว็บไซต์ เมื่อเปิดเว็บไซต์นั้นขึ้นมา โฮมเพจ ก็จะเปรียบเสมือนกับเป็นสารบัญและคำนำที่เจ้าของเว็บไซต์นั้นได้สร้างขึ้น เพื่อใช้ประชาสัมพันธ์องค์กรของตน นอกจากนี้ ภายในโฮมเพจก็อาจมีเอกสารหรือข้อความที่เชื่อมโยงต่อไปยังเว็บเพจอื่นๆอีกด้วย
                                                ที่มา:http://www.mindphp.com/

Web Browser หมายถึง ....
   เว็บเบราว์เซอร์ (web browserเบราว์เซอร์ หรือ โปรแกรมดูเว็บ คือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่ผู้ใช้สามารถดูข้อมูลและโต้ตอบกับข้อมูลสารสนเทศที่จัดเก็บในหน้าเวบที่สร้างด้วยภาษาเฉพาะ เช่น ภาษาเอชทีเอ็มแอล (html) ที่จัดเก็บไว้ที่ระบบบริการเว็บหรือเว็บเซิร์ฟเวอร์ หรือระบบคลังข้อมูลอื่น ๆ โดยโปรแกรมค้นดูเว็บเปรียบเสมือนเครื่องมือในการติดต่อกับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่เรียกว่าเวิลด์ไวด์เว็บ
                                                ที่มา:http://www.mindphp.com/

Domain Name หมายถึง ....
  โดเมนเนม ความหมายโดยทั่วๆ ไป หมายถึง ชื่อเว็บไซต์ ชื่อบล็อก ซึ่งเป็นชื่อที่ตั้งขึ้นเพื่อให้จดจำและนำไปใช้งานได้ง่าย
ทั้งในการเข้าชมผ่านบราวเซอร์ของผู้ใช้ทั่วไป ยังรวมไปถึงผู้ดูแลระบบโดเมนเนมซีสเทม ที่สามารถแก้ไขไอพีแอดเดรสของชื่อโดเมนเนมนั้นๆ ได้ทันที
โดยที่ผู้ใช้ทั่วไปไม่จำเป็นต้องรับรู้หรือจดจำไอพีแอดเดรสที่มีการเปลี่ยนแปลง 
เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ทำหน้าที่เผยแพร่เว็บไซต์ จะมีโดนเมนเนมเฉพาะไม่ซ้ำกับใคร - See more at: http://www.b2ccreation.com/content/knowledgebase/kb_view.asp?kbid=19#sthash.3cYqDtkm.dpuf

                                            ที่มา:http://www.b2ccreation.com/


URL(Uniform Resouire Locator)  หมายถึง ....
 คือตัวระบุแหล่งทรัพยากรสากล (URI) ประเภทหนึ่ง ซึ่งใช้สำหรับระบุแหล่งที่อยู่ของทรัพยากรที่ต้องการและมีกลไกบางอย่างสำหรับดึงข้อมูลทรัพยากรนั้นมา ในการใช้ในเอกสารทางเทคนิคและการอภิปรายทั่วไป มักจะใช้ยูอาร์แอลแทนความหมายที่คล้ายกับยูอาร์ไอ ซึ่งไม่ใช่ความหมายที่ถูกต้องและอาจทำให้เกิดความสับสน ในภาษาพูดทั่วไป

ที่มา:electronicbusiness27.wordpress.com


IP (Internet Protocol) หมายถึง ....
    IP Address ย่อมาจากคำเต็มว่า Internet Protocal Address คือหมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องในระบบเครือข่ายที่ใช้โปรโตคอลแบบ TCP/IP 
ถ้าเปรียบเทียบก็คือบ้านเลขที่ของเรานั่นเอง ในระบบเครือข่าย จำเป็นจะต้องมีหมายเลข IP กำหนดไว้ให้กับคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อื่นๆ ที่ต้องการ IP ทั้งนี้เวลามีการโอนย้ายข้อมูล หรือสั่งงานใดๆ จะสามารถทราบตำแหน่งของเครื่องที่เราต้องการส่งข้อมูลไป จะได้ไม่ผิดพลาดเวลาส่งข้อมูล ซึ่งประกอบด้วยตัวเลข 4 ชุด มีเครื่องหมายจุดขั้นระหว่างชุด  เช่น 192.168.100.1 หรือ 172.16.10.1  เป็นต้น  โดยหมายเลข IP Address ของเครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องจะมีค่าไม่ซ้ำกัน สิ่งตัวเลข 4 ชุดนี้บอก คือ Network ID กับ Host ID ซึ่งจะบอกให้รู้ว่า เครื่อง computer ของเราอยู่ใน network ไหน และเป็นเครื่องไหนใน network นั้น เราจะรู้ได้อย่างไรว่า Network ID และ Host ID มีค่าเท่าไหร่ ก็ขึ้นอยู่กับว่า IP Address นั้น อยู่ใน class
                                           ที่มา:http://www.mindphp.com/

TCP/IP (Transport Control Protocol/Internet Protocol) หมายถึง ....
    เป็นชุดของโปรโตคอลที่ถูกใช้ในการสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้สามารถใช้สื่อสารจากต้นทางข้ามเครือข่ายไปยังปลายทางได้ และสามารถหาเส้นทางที่จะส่งข้อมูลไปได้เองโดยอัตโนมัติ ถึงแม้ว่าในระหว่างทางอาจจะผ่านเครือข่ายที่มีปัญหา โปรโตคอลก็ยังคงหาเส้นทางอื่นในการส่งผ่านข้อมูลไปให้ถึงปลายทางได้ ชุดโปรโตคอลนี้ได้รับการพัฒนามาตั้งแต่ปี 1960 ซึ่งถูกใช้เป็นครั้งแรกในเครือข่าย ARPANET ซึ่งต่อมาได้ขยายการเชื่อมต่อไปทั่วโลกเป็นเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ทำให้ TCP/IP เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางจนถึงปัจจุบัน
                                     ที่มาhttp://www.tnetsecurity.com/

Protocolหมายถึง ....
    โปรโตคอล คือ ข้อกำหนดหรือข้อตกลงในการสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์ หรือภาษาสื่อสารที่ใช้เป็น ภาษากลางในการสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์ด้วยกัน การที่เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ถูกเชื่อมโยงกันไว้ในระบบจะสามารถติดต่อสื่อสารกันได้นั้น จำเป็นจะต้องมีการสื่อสารที่เรียกว่า โปรโตคอล (Protocol) เช่นเดียวกับคนเราที่ต้องมีภาษาพูดเพื่อให้สื่อสารเข้าใจกันได้ 
โปรโตคอลช่วยให้ระบบคอมพิวเตอร์สองระบบ ที่แตกต่างกันสามารถสื่อสารกันอย่างเข้าใจได้  คือข้อตกลงที่กำหนดเกี่ยว กับการสื่อสารระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ต่างๆ ทั้งวิธีการส่งและรับข้อมูล วิธีการตรวจสอบข้อผิดพลาดของการส่งและรับข้อมูล การแสดงผลข้อมูลเมื่อส่งและรับกันระหว่างเครื่องสองเครื่อง ดังนั้นจะเห็นได้ว่าโปรโตคอลมีความสำคัญมากในการสื่อสารบนเครือข่าย หากไม่มีโปรโตคอลแล้ว การสื่อสารบนเครือข่ายจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้

                                          ที่มา:http://www.mindphp.com/


ISP (Internet Service Provider)   หมายถึง ....
    หน่วยงานที่บริการ ให้เชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล หรือเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ของบริษัท เข้ากับเครือข่าย อินเทอร์เน็ตทั่วโลก เสมือนตัวแทนของผู้ใช้อินเทอร์เน็ต เพื่อเข้าถึงแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ถ้าผู้ใช้อินเทอร์เน็ต ต้องการข้อมูลต่างๆ ก็สามารถติดต่อผ่าน ISP ได้ทุกเวลา ตลอด 24 ชั่วโมง โดยการใช้บริการอินเตอร์เน็ต ผ่านผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตทั่วไป

                                        ที่มา:http://guru.sanook.com/

ASP (Application Service Provider) หมายถึง ....
    บริษัทหรือองค์กรที่ให้บริการใช้ซอฟต์แวร์ผ่านอินเทอร์เน็ต โดยที่เราไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์ที่เครื่องของเรา เพียงติดต่อขอเข้าใช้บริการซอฟต์แวร์ที่ต้องการที่เว็บไซต์นั้นและเสียค่าใช้จ่าย คุณก็สามารถใช้ซอฟต์แวร์ได้ตามต้องการ
                                                    ที่มา:http://www.kingrpg.net/

IDC (Internet Data Center) หมายถึง ....
   คือ บริการในการจัดเก็บรักษาข้อมูล และอุปกรณ์ ICT (เครื่อง Server, อุปกรณ์เครือข่ายต่างๆ) ให้กับ
ธุรกิจและองค์กร เพื่อให้ธุรกิจของคุณดำเนินธุรกิจได้อย่างราบรื่น เนื่องจากในปัจจุบันการดำเนินธุรกิจจะต้องมีการติดต่อสื่อสารรับส่งข้อมูลระหว่างกันตลอดเวลา เพราะมีการแข่งขันกันสูง

                            ที่มา:http://webhostingserver.technologyland.co.th



E-Commerce (Elertronic Commerce)หมายถึง ....

   หรือ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทางเศรษฐกิจที่ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่น การซื้อขายสินค้าและบริหาร การโฆษณาสินค้า การโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น จุดเด่นของ E-Commerce คือ ประหยัดค่าใช้จ่าย และเพิ่ม ประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ โดยลดความสำคัญขององค์ประกอบของธุรกิจที่มองเห็นจับต้องได้ เช่นอาคารที่ทำการ ห้องจัดแสดงสินค้า (show room) คลังสินค้า พนักงานขายและพนักงานให้บริการต้อนรับลูกค้า เป็นต้น ดังนั้นข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์คือ ระยะทางและเวลาทำการแตกต่างกัน จึงไม่เป็นอุปสรรคต่อการทำธุหมายถึง การคัดลอกแฟ้มข้อมูลหรือโปรแกรม จากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งเข้า มาในเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เรากำลังใช้อยู่ โดยผ่านทางโมเด็ม ((modem) เป็นต้นว่าคัดลอกจากคอมพิวเตอร์แม่ข่ายเข้ามาเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ของเราเอง (เพื่อว่าภายหลังจะได้ใช้ตามลำพังได้)รกิจอีกต่อไป

                                          ที่มา:http://guru.sanook.com/


Hypertext หมายถึง ....
ข้อความหลายมิติหมายถึง การเรียกหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องที่ต้องการรู้ให้แสดงบนจอภาพ ซึ่งอาจมีทั้งข้อความที่ใช้อธิบาย หรือบางทีจะมีภาพประกอบมีเสียง หรือมีการแสดงการเคลื่อนไหว ฯ ใช้มากในโฮมเพจต่าง ๆในอินเตอร์เน็ต ส่วนมาก คำที่จะมีคำอธิบายเช่นนี้มักจะเป็นคำที่ขีดเส้นใต้ไว้ หรือไม่ก็เป็นตัวดำหนาเมื่อลากเมาส์ไปวางที่คำเหล่านี้ ตัวชี้ตำแหน่งจะเปลี่ยนเป็นนิ้วชี้ถ้ากดเมาส์ ก็จะมีรายละเอียดมาอธิบายให้หรือจะโยงไปหารายละเอียดของเรื่องนั้น ๆ
ที่มา:http://th.w3dictionary.org

Download หมายถึง ....
   หมายถึง การคัดลอกแฟ้มข้อมูลหรือโปรแกรม จากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งเข้า มาในเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เรากำลังใช้อยู่ โดยผ่านทางโมเด็ม ((modem) เป็นต้นว่าคัดลอกจากคอมพิวเตอร์แม่ข่ายเข้ามาเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ของเราเอง (เพื่อว่าภายหลังจะได้ใช้ตามลำพังได้)
                                        ที่มา:http://dictionary.sanook.com/

Upload หมายถึง ....
   หมายถึง การถ่ายโอนข้อมูลจากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่ง ไปยังคอมพิวเตอร์อีกเครื่องหนึ่งคอมพิวเตอร์ตัวส่งข้อมูลเรียกว่าเป็นตัวที่ทำการ "บรรจุขึ้น" ส่วนคอมพิวเตอร์ตัวรับข้อมูลเรียกว่าเป็นตัวที่ทำการ "บรรจุลง" ส่วนมากใช้ในการถ่ายโอนจากคอมพิวเตอร์ในเครือข่ายไปไว้ในแม่ข่าย ซึ่งถือว่าสูงกว่า ถ้าเป็นการถ่ายโอนจากแม่ข่าย จะเรียกว่า "บรรจุลง" (download)
                                       ที่มา:http://dictionary.sanook.com/

POP (Post Office Protocal) หมายถึง ....
POP จะมีการทำงานในแบบที่เรียกว่า Offline Model กล่าวคือเวลาทำงาน E-mail Client จะเชื่อมต่อกับ Mail Server จากนั้นจะ Download และลบ E-mail ออกจาก Server หรือ Download เพียงอย่างเดียวแล้วทิ้ง E-mail ไว้บน Server ภายหลังจากที่ E-mail ถูก Download มาที่เครื่อง Client เรียบร้อยแล้ว Client จะตัดการเชื่อมต่อออกจาก Server หลังจากนั้น E-mail จะถูก Process ที่เครื่อง Client ทั้งหมด ข้อได้เปรียบของการทำงานแบบนี้ก็คือ Client แต่ละเครื่องใช้เวลาในการเชื่อมต่อกับเครื่อง Mail Server น้อยมากอีกทั้งยังต้องการเนื้อที่เก็บ E-mail บน Server น้อยด้วยเช่นกัน แต่ข้อเสียก็คือไม่สามารถอ่าน E-mail จาก Client เครื่องอื่นได้อีกหากว่าเรา Set ให้ลบ Mail บน Server หลังจาก Download เสร็จ หรือ ไม่สามารถบอกได้ว่า Mail ฉบับไหนเคยอ่านไปแล้วบ้าง หากเรา Set ค่าแบบ ให้ทิ้ง E-mail ไว้บน Server อีกประการหนึ่งคือเครื่อง Client จะต้องมีประสิทธิภาพสูงเนื่องจากเป็นผู้ Process E-mail ด้วยตนเอง
                                     ที่มา:http://support.hosting.co.th/

Internet Address หมายถึง ....
ย่อมาจากคำเต็มว่า Internet Protocal Address คือหมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องในระบบเครือข่ายที่ใช้โปรโตคอลแบบ TCP/IP ถ้าเปรียบเทียบก็คือบ้านเลขที่ของเรานั่นเอง ในระบบเครือข่าย จำเป็นจะต้องมีหมายเลข IP กำหนดไว้ให้กับคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อื่นๆ ที่ต้องการ IP ทั้งนี้เวลามีการโอนย้ายข้อมูล หรือสั่งงานใดๆ จะสามารถทราบตำแหน่งของเครื่องที่เราต้องการส่งข้อมูลไป จะได้ไม่ผิดพลาดเวลาส่งข้อมูล 


                       ที่มา...http://www.it-guides.com/://www.it-guides.com/

IP Address คือหมายถึง
  IP Address ย่อมาจากคำเต็มว่า Internet Protocal Address คือหมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องในระบบเครือข่ายที่ใช้โปรโตคอลแบบ TCP/IP 

            ที่มา...http://http://www.it-guides.com/-guides.com/://www.it-guides.com/



Mailing List หมายถึง..
mailing lists คือ กลุ่มรายชื่อของอีเมล์ซึ่งเมื่อคุณส่งอีเมล์ไปที่ mailing lists นั้น mailing lists จะช่วยทำการกระจายไปให้กับอีเมล์ที่อยู่ในกลุ่มโดยอัตโนมัติ เช่น สมมุติว่าคุณตั้งชื่อ maling list ว่าgroup@domain.com แล้วก็นำเอาอีเมล์ของผู้ที่ต้องการอยู่ในกลุ่มมาลงทะเบียนไว้กับโปรแกรมจัดการmailing list ดังนั้นเมื่อบุคคลในกลุ่ม mailing lists ส่งอีเมล์ไปที่ group@domain.comระบบก็จะช่วยทำการกระจายให้กับทุกคนในกลุ่ม


                                                                    ที่มา... netway.co.th