วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ประโยชน์และโทษของอินเตอร์เน็ต

ประโยชน์และโทษของอินเตอร์เน็ต

1.ประโยชน์ของอินเตอร์เน็ต (ให้ตอบมาอย่างน้อย 5 ข้อ)
ตอบ
  • เป็นแหล่งค้นคว้าหาข้อมูลทางวิชาการ ข้อมูลด้านการบันเทิง ด้านการแพทย์ และอื่นๆที่เราสนใจ เป็นต้น
  • ทำหน้าที่เสมือนเป็นห้องสมุดขนาดใหญ่ หรือคลังหนังสือมหาศาล
  • นักเรียน และนักศึกษาสามารถใช้อินเทอร์เน็ตติดต่อกับโรงเรียน และมหาวิทยาลัยอื่นๆ เพื่อค้นหาข้อมูลที่กำลังศึกษาอยู่ได้ ทั้งที่ข้อมูลที่เป็นข้อความ เสียง และภาพเคลื่อนไหวต่างๆ
  • ทำการเรียนการสอนผ่านระบบอินเตอร์เน็ตได้
  • เป็นแหล่งค้นหาข้อมูลเพื่อช่วยในการตัดสินใจทางธุรกิจ
2. ให้นักเรียนหาประเด็นเกี่ยวโทษของอินเตอร์เน็ตต่อไปนี้
      2.1โรคติดอินเตอร์เน็ต
      ตอบ โรคติดอินเทอเน็ต (Webaholic)
      โรคติดอินเทอร์เน็ต เป็นอาการทางจิตประเภทหนึ่ง ซึ่งนักจิตวิทยาชื่อ Kimberly S Youngได้ศึกษา       และวิเคราะห์ไว้ว่าบุคคลใดที่มีอาการดังต่อไปนี้ อย่างน้อย 4 ประการ เป็นเวลาไม่น้อยกว่า1ปีแสดง       ว่าเป็น
  
      2.2เรื่องอณาจารผิดศีลธรรม
      ตอบ โทษของอินเทอร์เน็ต เรื่องอณาจารผิดศีลธรรม(Pornography/Indecent Content)
      เรื่องของข้อมูลต่างๆที่มีเนื้อหาไปในทางขัดต่อศีลธรรมลามกอนาจารหรือรวมถึงภาพโป๊เปลือย             ต่างๆนั้นเป็นเรื่องที่มีมานานพอสมควรแล้วบนโลกอินเทอเน็ตแต่ไม่โจ่งแจ้งเนื่องจากสมัย                    ก่อนเป็นยุคที่ WWW ยังไม่พัฒนา มากนักทำให้ไม่มีภาพออกมาแต่ในปัจจุบันภายเหล่านี้เป็นที่            โจ่งแจ้งบนอินเทอเน็ตและสิ่งเหล่านี้สามารถเข้าสู่เด็กและเยาวชนได้ง่ายโดยผู้ปกครองไม่                    สามารถที่จะให้ความดูแลได้เต็มที่เพราะว่าอินเทอเน็ตนั้นเป็นโลกที่ไร้พรมแดนและเปิดกว้างทำให้        สือ่เหล่านี้สามรถเผยแพร่ไปได้รวดเร็วจนเราไม่สามารถจับกุมหรือเอาผิดผู้ที่ทำสิ่งเหล่านี้ขึ้นมาได้ 
  
     2.3   ไวรัส ม้าโทรจัน หนอนอินเตอร์เน็ต และระเบิดเวลา 
   ตอบ
     ไวรัส : ป็นโปรแกรมอิสระ ซึ่งจะสืบพันธุ์โดยการจำลองตัวเองให้มากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อที่จะทำลาย             ข้อมูลหรืออาจทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานช้าลงโดยการแอบใช้สอยหน่วยความจำหรือ                    พื้นที่ว่างบนดิสก์โดยพลการ 
      หนอนอินเทอร์เน็ต : ถูกสร้างขึ้นโดย Robert Morris, Jr.จนดังกระฉ่อนไปทั่วโลกมันคือ                     โปรแกรมที่จะสืบพันธุ์โดยการจำลองตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆจากระบบหนึ่งครอบ                                       ครองทรัพยากรและทำให้ระบบช้าลง
      ระเบิดเวลา : คือรหัสซึ่งจะทำหน้าที่เป็นตัวกระตุ้นรูปแบบเฉพาะของการโจมตีนั้นๆทำงานเมื่อสภาพ        การโจมตีนั้นๆหมายถึงยกตัวอย่างเช่นระเบิดเวลาจะทำลายไฟล์ทั้งหมดในวันที่ 31                              กรกฎาคม 2542
       ม้าโทรจัน : ม้าโทรจันเป็นตำนานนักรบที่ซ่อนตัวอยู่ในม้าไม้ แล้วแอบเข้าไปในเมืองจนกระทั่งยึด         เมืองได้สำเร็จ โปรแกรมนี้ก็ทำงานคล้ายๆ กัน คือโปรแกรมนี้จะทำหน้าที่ไม่พึงประสงค์ มันจะ               ซ่อนตัวอยู่ในโปรแกรม ที่ไม่ได้รับอนุญาต มันมักจะทำในสิ่งที่เราไม่ต้องการ และสิ่งที่มัน                     ทำนั้นไม่มีความจำเป็นต่อเราด้วย เช่น การแอบส่งรหัสผ่านต่างๆ ภายในเครื่องของเราไป                     ให้ผู้เขียนโปรแกรม

 2.4และโทษของอินเตอร์อื่นๆ มาอย่างน้อยอีก 5 ข้อ
ตอบ 
1.อินเทอร์เน็ตเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่ที่มีผู้คนมากมายเข้าไปใช้บริการ เป็นเวทีที่เปิดกว้างและให้อิสระกับทุกคนได้เข้ามาเขียนข้อมูล หรือติดประกาศต่างๆ โดยปราศจากการกลั่นกรองที่ดี ทำให้ข้อมูลที่ได้รับไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นข้อมูลที่เป็นความจริงหรือไม่

2.เกิดปัญหาของการละเมิดลิขสิทธิ์ เช่น การดาวน์โหลดเพลง หรือรูปภาพ มารวบรวมขาย หรือที่เป็นปัญหาอย่างยิ่ง คื่อการตัดต่อภายบุคคลสฎคัญที่มีชื่อเสียงให้กลายเป็นภาพที่ส่อในทางอนาจารมาแผยแพร่ ทำให้บุคคลเหล่านั้นเสียหาย
3.ก่อให้เกิดปัญหาด้านอาชญากรรม เพราะการเล่นอินเทอร์เน็ต เช่น การล่อลวงหญิงไปในทางไม่ดี โดยรู้จักกันผ่านทางอินเทอร์เน็ต การก่อคดีข่มขืน เนื่องเว็บไซต์โป๊
4.ก่อให้เกิดปัญหาการหมกหมุ่นของเยาวชนที่เข้าไปในเว็บไซที่ไม่เป็นประโยชน์จนทำให้เกิด”โรคติดอินเทอร์เน็ต(wedaholic)”จะทำให้เกิดอัตรายต่อตนเองและสังคมได้
5.อินเตอร์เน็ตเป็นระบบอิสระ ไม่มีเจ้าของ ทำให้การควบคุมกระทำได้ยาก
3.ให้นักเรียนคิดโจทย์ เกี่ยวกับอินเตอร์เน็ตที่เรียนมาตั้งแต่ต้น มีตัวเลือก พร้อมเฉลย อย่างน้อย 10 ข้อ
ตอบ
1. การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่บ้านต้องเชื่อมผ่านอุปกรณ์ใด
ก.  โมเด็ม    ข. เราท์เตอร์   ค. ทีซีพี      ง. โปโตคอล
2. การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมีกี่รูปแบบ
ก.  2 รูปแบบ     ข. 3 รูปแบบ       ค. 4  รูปแบบ      ง. 5 รูปแบบ
3. การกำหนดรหัสผ่าน  Password  ควรใช้กี่ตัวอักษร
ก.  มากกว่า 3 ตัว         ข. มากกว่า 4 ตัว  ค. มากกว่า 5 ตัว  ง. มากกว่า 6 ตัว
4. ข้อใดไม่ใช่อุปกรณ์สำคัญในการเชื่อมต่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ตพื้นฐาน
ก.เครื่องคอมพิวเตอร์     ข.โมเด็ม       ค. โทรศัพท์      ง.เราท์เตอร์ 
5. อินเทอร์เน็ต  หมายถึง
ก. การเชื่อมต่อกันระหว่างเครือข่าย             ข. การเชื่อมต่อกันระหว่างบุคคลกับบุคคล
ค.การเชื่อมต่อกันระหว่างบุคคลกับองค์กร     ง. การเชื่อมต่อกันระหว่างองค์กรกับองค์กร
6.ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ คือข้อใด
ก. Chat       ข. E -mail          ค. Net                 ง.  Web
7. บริการใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นซึ่งตั้งอยู่ไกลออกไป สามารถใช้บริการใด
ก. Download      ข. FTP         ค. Telnet            ง. BBS
8. การบริการในลักษณะของกระดานข่าวหรือบูเลตินบอร์ด คือข้อใด
ก. UseNet           ข. Download     ค. IRC            ง.Chat
9. ข้อใดไม่ใช่การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
ก. เครื่องคอมพิวเตอร์  ข. โมเด็ม   ค. โทรศัพท์    ง. โทรทัศน์
10.การเชื่อมโยงเครือข่ายอินเทอร์เน็ตบุคคลสามารถเข้าถึงได้โดยใช้ผ่านคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์โดยใช้อุปกรณ์ต่อพ่วงคือ
ก.  ทีซีพี           ข.โมเด็ม    ค.. เราท์เตอร์      ง. โปโตคอล

 เฉลย
1.ค      2. ก     3. ง     4. ง     5. ก
6. ข     7. ค     8. ก     9. ง     10.ข


วันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

บริการค้นหาข้อมูล

แบบฝึกหัดที่ 4 

เรื่องอินเทอร์เน็ต(บริการค้นหาข้อมูล)


1.ให้อธิบายพร้อมยกตัวอย่างความแตกต่างระหว่างการสืบค้นแบบ  Web directory , Meta  search ,  Search  engine
ตอบ Web Directory คือ ระบบที่เก็บรวบรวมเว็บไซต์ไว้เป็นหมวดหมู่ ซึ่งสามารถแบ่งกลุ่มออกเป็น               หมวดหมู่ย่อย ๆ ได้ด้วย เว็บที่ถูกบันทึกในแต่ละกลุ่ม จะต้องมีหัวเรื่องหรือ
        เนื้อหาที่สัมพันธ์กัน
        Meta search คือ Search Engines ประเภทนี้ อาจจัดได้ว่าไม่ใช่ Search Engines ที่แท้จริง
        เนื่องจากไม่ได้ทำการสืบค้นข้อมูลเอง แต่จะส่งต่อคำถามจากผู้ใช้ (Query) ไปให้ 
        Search Engines ตัวอื่นผลการค้นที่ได้จึงแสดงที่มา (ชื่อของ Search Engines) ที่เป็นเจ้าของข้อมูล
       ไว้ต่อท้ายรายการที่ค้น       ได้แต่ละรายการ
        Search engine คือ เครื่องมือการค้นหาข้อมูลผ่านอินเตอร์เน็ต ที่ทุกคนสามารถเข้าไปค้นหาข้อมูล           ผ่านอินเตอร์เน็ตก็ได้ โดย กรอก ข้อมูลที่ต้องการค้นหา หรือ Keyword (คีย์เวิร์ด) เข้าไปที่ช่อง 
       Search Box แล้วกด Enter แค่นี้ข้อมูลที่เราค้นหาก็จะถูกแสดงออกมาอย่างมากมายก่ายกอง เพื่อให้          เราเลือกข้อมูลที่เราโดนใจที่สุดเอามาใช้ งาน โดยลักษณะการแสดงผลของ Search Engine 
       นั้นจะทำการแสดงผลแบบ เรียงอันดับ Search Resultsผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ของเรา


2.จงอธิบายความแตกต่างระหว่างการใช้คำสั่ง ดีใจจังค้นแล้วเจอแล้ว กับ การค้นหาแบบธรรมดา ใน Google
ตอบ การใช้คำสั่ง ดีใจจัง ค้นแล้วเจอเลยจะช่วยให้ใช้เวลาในการค้นหาหน้าเว็บน้อยลงเพราะเมื่อใช้คำสั่ง Google จะเข้าหน้าเว็บแรกที่เป็นผลลัพธ์ของข้อความค้นหาของคุณ ทันที ส่วนการใช้คำสั่งค้นหาแบบธรรมดานั้น Google จะแสดงผลลัพธ์เป็นหน้าเว็บให้คุณเลือกเข้าเอง 

3.ในการค้นหาขั้นสูง จะมีคำสั่ง AND กับ OR  เพื่อใช้เสริมในการค้นหา  จงอธิบายความแตก
ต่างพร้อมยกตัวอย่างการใช้งานพร้อมผลลัพธ์ทั้งสอง (แต่ละคนห้ามซ้ำกัน)
ตอบ  AND ใช้เชื่อมคำค้น เพื่อจำกัดขอบเขตการค้นหาให้แคบลง 
         เช่น ต้องการค้นหาคำว่า สัมตำที่เป็นอาหาร มีรูปแบบการค้นดังนี้ คือ ส้มตำ AND อาหาร หมายถึง                    ต้องการค้นหาคำว่า ส้มตำ และคำว่า อาหาร 

         OR ใช้เชื่อมคำค้น เพื่อขยายขอบเขตให้กว้างขึ้น
          เช่น สัมตำไทย OR ส้มตำปูปลาร้า หมายถึง ต้องการค้นหาคำว่า สัมตำไทย และ ส้มตำปูปลาร้า หรือ                 ค้นหาคำใด  คำหนึ่งก็ได้ 


4.Google Scholar มีวัตถุประสงค์ในการใช้งานอย่างไร
ตอบ มีไว้ค้นหา บทความ หรือ งานวิจัย โดยเฉพาะ

5.Google Guru  มีวัตถุประสงค์ในการใช้งานอย่างไร
ตอบ มีไว้ใช้ในการตั้งคำถามเพื่อให้คนที่มีความรู้มาตอบ และเพื่อเอาคำตอบไปใช้อย่างรวดเร็ว

6.iGoogle คืออะไรมีไว้เพื่อจุดประสงค์ใด
ตอบ  I Google เป็นฟังค์ชันที่ Google ทำออกมาเพื่อเอาใจผู้ใช้ I Google เราสามารถปรับแต่งหน้าต่าง I Google ของเรายังไงก็ได้ สามารถดูสภาพอากาศของจังหวัดต่างๆได้ สามารถจดบันทึกข้อความก็ได้ ดูข่าวสาร สาระน่ารู้ ก็ได้อีกเหมือนกัน สามารถ chat พูดคุยกับเพื่อนก็ได้ อีกทั้งสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบที่เราต้องการไม่ให้ซ้ำใครอีกด้วย

7.จงบอกสิทธิประโยชน์ของการสมัครเป็นสมาชิกของ Google  ว่ามีความแตกต่างกับผู้ไม่สมัคร    อย่างไร (ให้นักเรียนบอกที่มาด้วย)
ตอบ มื่อสมัครเป็นสมาชิก Google จะได้รับสิทธิประโยชน์ดังนี้
      – สถิติเกี่ยวกับ Visitor รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ที่เข้ามาชมเว็บไซต์
      – สถิติเกี่ยวกับ Traffic รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับช่องทางในการเข้าถึงเว็บไซต์
      – สถิติเกี่ยวกับ Content รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสถิติการเข้าชมเนื้อหาภายในหน้าเว็บไซต์
      – สถิติเกี่ยวกับ Goal วิเคราะห์ว่าผู้ใช้งานเข้าถึงเป้าหมายภายในเว็บไซต์ได้อย่างไร

            ที่มา: http://apinya-namvises.blogspot.com/2015_08_01_archive.html